16 07 62

เป็นเรื่องที่เราทราบกันดีว่า การดื่มน้ำอย่างเพียงพอส่งผลดีต่อร่างกายและจิตใจ สถาบัน The National Academies of Sciences, Engineering, and Medicine แนะนำให้ผู้ชายที่มีอายุ 19 ปีหรือมากกว่า ควรจะดื่มน้ำวันละ 3.7 ลิตรต่อวัน (หรือราวๆ 15 แก้วครึ่ง) และผู้หญิงที่มีอายุ 19 ปีหรือมากกว่าควรจะดื่มน้ำ 2.7 ลิตรต่อวัน (หรือราวๆ 11 แก้วครึ่ง) แต่การดื่มน้ำเย็นนั้นส่งผลเสียต่อร่างกายหรือไม่

มีผู้คนบางคนเชื่อว่าการดื่มน้ำเย็นนั้นส่งผลเสียต่อร่างกายได้ในระยะยาว ซึ่งความเชื่อดังกล่าวอาจมีพื้นฐานมาจากการสังเกตสิ่งต่างๆในชีวิตประจำวัน เช่น การเทน้ำเย็นลงไปในอาหารและเห็นคราบไขมันลอยขึ้นมาเหนืออาหารหรือแม้แต่การสังเกตว่าเมื่อเราดื่มน้ำเย็นจะทำให้กระบวนการย่อยอาหารช้าลง มากไปกว่านั้นบางคนยังเชื่ออีกว่าการดื่มน้ำที่มีอุณหภูมิน้อยกว่าร่างกายซึ่งมีอุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียนจะทำให้ร่างกายต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อรักษาอุณหภูมิในร่างกาย แต่ความเชื่อเหล่านี้เป็นความจริงหรือไม่ การศึกษาจากงานวิจัยที่เกี่ยวข้องอาจช่วยไขคำตอบให้กับคำถามเหล่านี้ได้

 

จากการวิจัยขนาดเล็กในปี 1978 โดยใช้กลุ่มตัวอย่างขนาดเล็กคือ 15 คน ทำการทดลองโดยการให้ดื่มน้ำเย็นพบว่า การดื่มน้ำเย็นทำให้สารคัดหลั่งบริเวณโพรงจมูกมีความเหนียวข้นมากขึ้นส่งผลให้สารคัดหลั่งเหล่านั้นไปขัดขวางการทำงานของระบบทางเดินหายใจได้ เมื่อทำการเปรียบเทียบกับการทดลองโดยให้กลุ่มตัวอย่างทำการดื่มซุปไก่และน้ำร้อนพบว่าช่วยให้กลุ่มตัวอย่างสามารถหายใจได้ดียิ่งขึ้น และยังพบอีกว่าในผู้ป่วยโรคหวัดหรือไข้หวัดใหญ่ การดื่มน้ำเย็นจะทำให้เกิดการคัดจมูกมากขึ้นได้

การทดลองในระยะถัดมาในปี 2001ที่ทำการทดลองโดยการให้กลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้หญิงได้ทำการดื่มน้ำเย็นจำนวน 150 มิลลิลิตรเพื่อดูว่าการดื่มน้ำเย็นจะสามารถกระตุ้นอาการปวดไมเกรนได้หรือไม่ พบว่า 7.6% ของกลุ่มตัวอย่าง มีอาการปวดหัวหลังจากดื่มน้ำเย็นด้วยหลอดปริมาณ 150 มิลลิลิตร ในผู้หญิงที่มีอาการปวดไมเกรนหนึ่งครั้งหรือมากกว่าในระยะหนึ่งปีมีโอกาสที่จะปวดหัวเป็นสองเท่าเมื่อเปรียบเทียบกับผู้หญิงที่ไม่มีอาการไมเกรน ในผู้หญิงที่มีอาการปวดไมเกรนครั้งล่าสุดในระยะมากกว่า 1 ปี พบว่าไม่มีอัตราการปวดไมเกรนเพิ่มขึ้นเมื่อดื่มน้ำเย็น

ด้านผลดีของการดื่มน้ำเย็น

เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปถึงประโยชน์ของการดื่มน้ำ ในการศึกษาพบว่าการดื่มน้ำเย็นในระหว่างการออกกำลังกายช่วยให้ร่างกายของเรามีอุณหภูมิที่ไม่สูงจนเกินไปได้ส่งผลให้มีผลลัพธ์จากการออกกำลังกายที่ดีกว่า ทั้งนี้เป็นเพราะการดื่มน้ำเย็นจะช่วยให้ร่างกายสามารถรักษาอุณหภูมิให้เย็นได้ง่ายขึ้น

หากพูดถึงการดื่มน้ำเย็นกับการลดน้ำหนักแล้วพบว่า การดื่มน้ำแทนการดื่มน้ำหวานเป็นผลดีต่อการย่อยอาหารของร่างกายและทำให้ร่างกายมิได้รับพลังงานเกินความจำเป็น การดื่มน้ำเย็นยังช่วยเพิ่มการใช้พลังงานของร่างกายได้เนื่องจากร่างกายต้องใช้พลังงานมากขึ้นในการรักษามิให้อุณหภูมิในร่างกายเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตามการดื่มน้ำเย็นก็ไม่ใช่วิธีการที่ดีในการลดน้ำหนักเมื่อเปรียบเทียบกับการกระตุ้นให้ร่างกายใช้พลังงานโดยวิธีอื่น

 

การดื่มน้ำอุ่นสามารถช่วยเสริมการทำงานในกระบวนการย่อยของร่างกายได้ ช่วยให้มีระบบการไหลเวียนของเลือดที่ดีขึ้น ช่วยส่งเสริมการกำจัดของเสียออกจากร่างกายในภาพรวม อย่างไรก็ตามพบว่าการดื่มน้ำอุ่นหรือน้ำร้อนจะทำให้คุณรู้สึกกระหายน้ำน้อยลง ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายในวันที่ร่างกายของคุณสูญเสียน้ำและต้องการลดอุณหภูมิในร่างกาย ถ้าคุณดื่มน้ำอุ่นในสถานการณ์เช่นนี้ พึงระลึกไว้ว่าอาจทำให้คุณกระหายน้ำน้อยกว่าที่ควรจะเป็นซึ่งอาจส่งผลเสียต่อร่างกายของคุณได้ ดังนั้นไม่ว่าจะเลือกดื่มน้ำอุ่นหรือน้ำเย็นการเลือกดื่มให้เหมาะสมกับความต้องการของร่างกายก็เป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุดในการรักษาสมดุลของร่างกาย

เครดิค : https://www.honestdocs.co/drink-coldwater-can-bad-result-body-or-not