หากเกิดกรณีแบบนี้ขึ้นเมื่อไหร่ ก็อย่าเพิ่งไปคาดเดาว่า มาตรวัดน้ำนั้นหมดอายุเสียแล้ว เพราะการที่มาตรวัดน้ำไม่เดินหรือเดินช้าลง มักมีสาเหตุหลายอย่างด้วยกันคือ
- ติดตั้งมาตรวัดน้ำผิดวิธี
- อาจมีเศษน้ำยากาวเชื่อมท่อ เทปพันเกลียว ติดอยู่ที่บริเวณใบพัดหรือเฟืองจักรระหว่างที่ทำการติดตั้งมาตรวัดน้ำ
- อาจเกิดจากมีเศษวัสดุต่างๆนอกเหนือจากข้อ 2 ไปติดอยู่ บริเวณทางเดินของน้ำหรือใบพัด เช่น เศษผ้า เศษไม้ ลวดฯลฯ ภายหลังหาก ติดตั้งใช้งานมาตรวัดน้ำไปแล้ว
การป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าว สามารถทำได้ดังนี้
- ติดตั้งมาตรวัดน้ำทุกตัวให้น้ำไหลเข้าตามลูกศรชี้ และอยู่ในแนว ขนานกับพื้น ไม่คว่ำ ไม่เอียงซ้ายหรือเอียงขวา
- ในการติดตั้งมาตรวัดน้ำร่วมกับท่อ พีวีซี ต้องรอให้น้ำยาเชื่อมท่อแห้งสนิทเสียก่อน จึงค่อยเชื่อมท่อเข้ากับมาตรวัดน้ำ
- ควรเก็บปลายเทปพันเกลียวให้เรียบร้อย ไม่ให้ไหลไปติดที่ชุดเฟืองจักรตัวมาตรวัดน้ำd
- กรณีที่มาตรวัดน้ำไม่เดินหรือเดินช้าผิดปกติ ให้ทำความสะอาดมาตรวัดน้ำโดยปิดวาวล์ทุกตัว และถอดมาตรวัดน้ำออกมาจากท่อ จากนั้นทำการถอดส่วนประกอบ ของมาตรวัดน้ำเพื่อทำความสะอาดดังนี้
-
ตัดเส้นลวดที่ผูกมาตรวัดน้ำออก ใช้เครื่องมือหมุนตัวเรือนด้านบนและฝาปิดมาตรวัดน้ำออก คว่ำมาตรวัดน้ำลง เพื่อให้สลักหลุดออกจากตัวมาตรวัดน้ำ (สลักมีลักษณะเป็นแท่งทองเหลือง) จะพบชุดเฟืองจักร เครื่องบันทึกปริมาตรน้ำ และใบพัด
-
ทำความสะอาดชิ้นส่วนต่างๆ ของมาตรวัดน้ำ โดยแช่ชิ้นส่วนต่างๆในน้ำสบู่ หรือ น้ำยาล้างจานแล้วใช้แปรงอ่อนๆขัดทำความสะอาด
-
ตากลมให้แห้ง (ไม่ควรนำไปตากแดด)นำชิ้นส่วนต่างๆ ประกอบเข้าเหมือนเดิม โดยเริ่มจาก ประกอบชุดเฟืองจักรและเครื่องบันทึกปริมาตรน้ำเข้าด้วยกัน แล้วคว่ำลงบนพื้นเรียบ หลังจากนั้นให้วางใบพัดลง
-
นำตัวเรือนมาตรครอบลงบนชิ้นส่วนที่ประกอบไว้แล้วยกขึ้น
-
ใส่สลักทองเหลืองให้ตรงจุดหมุนตัวเรือนมาตรด้านบน และฝาปิดให้สนิท แล้วอย่าลืมผูกลวดพร้อมย้ำเม็ดตะกั่วให้เรียบร้อยเป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ แล้วท่านก็จะได้มาตรวัดน้ำที่เที่ยงตรงแม่นยำ
-
เครดิต : http://202.129.59.73/tn/